ประวัติสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย
พ.ศ.2554 การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จดทะเบียนรับรอง สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย โดยมี พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ เป็นนายกสมาคมอย่างเป็นทางกร ในฐานะองค์กรกีฬามวยสากลแห่งชาติ ภายใต้การเป็นสมาชิกของสหพันธ์มวยสากลนานาชาติ (ไอบ้า) และสมาพันธ์มวยสากลแห่งเอเชีย (เอเอสบีซี) อย่างเป็นทางการ
พ.ศ.2555 สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ส่งนักมวยเข้าร่วมการแข่งขันมวยสากล ในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ฤดูร้อน ครั้งที่ 30 “ลอนดอน 2012” ที่กรุงลอนดอน อังกฤษ อย่างเป็นทางการ ผลปรากฏว่า แก้ว พงษ์ประยูร ได้เหรียญเงินรุ่นฟลายเวต ท่ามกลางความไม่พอใจผลการตัดสินของฝ่ายไทย
พ.ศ.2557 สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย เลือกตั้งกรรมการบริหารชุดใหม่ และได้ นายพิชัย ชุณหวชิร เป็นนายกสมาคม ท่ามกลางปัญหาความไม่เข้าใจกัน และไม่พอใจกัน ระหว่างสมาคมกีฬามวยสากลฯ กับ “ไอบ้า” อย่างรุนแรง ทำให้ นายพิชัย ชุณหวชิร ต้องใช้เวลาแก้ไข ไกล่เกลี่ยปัญหาดังกล่าวอย่างหนักในช่วงแรกๆ จนทำให้สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย และทุกอย่างเป็นไปด้วยดีมากขึ้นตามลำดับ
พ.ศ.2559 หลังจากทุกอย่างดีขึ้น ประเทศไทยเริ่มเป็นเจ้าภาพการแข่งขันมวยสากลชิงแชมป์แห่งเอเชียของ “เอเอสบีซี” และส่งนักมวยไปตระเวนแข่งขันรายการต่างๆ ในระดับนานาชาติของ “ไอบ้า” มากขึ้น ไทยส่งนักมวยเข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ฤดูร้อน ครั้งที่ 31 “ริโอ 2016” ที่กรุงริโอ เดอ จาเนโร บราซิล และประสบความผิดหวัง เมื่อนักมวยไทยไม่ได้เหรียญรางวัลใดๆ กลับมาเลยเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
พ.ศ.2560 ถึง 2563 อย่างไรก็ตาม นายพิชัย ชุณหวชิร ได้รับการเลือกตั้งกลับมาเป็นนายกสมาคมกีฬามวยสากลฯ อีกสมัยหนึ่ง พร้อมกับเป้าหมายต้องได้เหรียญมวยสากลกีฬาโอลิมปิกเกมส์ให้ได้ ดังนั้น สมาคมกีฬามวยสากลฯ ในยุคนี้ จึงเต็มไปด้วยกิจกรรมต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ .....กิจกรรมในประเทศ อาทิเช่น การลงทุนเป็นเจ้าภาพมวยสากลไทยแลนด์ โอเพ่น หรือ “คิงสัคัพ” และมวยสากลไทยแลนด์ ซีรี่ส์ เป็นประจำทุกปี, การเป็นเจ้าภาพมวยสากลเยาวชน (ชาย-หญิง) ชิงแชมป์แห่งเอเชีย และมวยสากลประชาชน (ชาย-หญิง) ชิงแชมป์แห่งเอเชีย ของ “เอเอสบีซี” ฯลฯ .....กิจกรรมต่างประเทศ อาทิเช่น การลงทุนส่งนักมวยเยาวชนไทย ไปแข่งขันรายการต่างๆ ในทวีปยุโรป และประสบความสำเร็จมากขึ้นตามลำดับ จนถึงขั้นกวาดเหรียญรางวัลจากการแข่งขันกีฬายูธ โอลิมปิกเกมส์ฤดูร้อน ครั้งที่ 3 “บัวโนสแอเรส 2018” ที่กรุงบัวโนสแอเรส อาร์เจนติน่า ค.ศ.2018/พ.ศ.2561 ดังนี้ 2 เหรียญทองจาก อธิชัย เพิ่มทรัพย์ รุ่น 60 กิโลกรัม, พัณพัชรา สมนึก รุ่น 57 กิโลกรัม, 2 เหรียญเงินจาก ศราวุฒิ สุขเทศ รุ่น 52 กิโลกรัม, พรทิพย์ บัวป่า รุ่น 60 กิโลกรีม และ 1 เหรียญทองแดงจาก วีระพล จงจอหอ รุ่น 75 กิโลกรัม นอกจากนี้ ยังได้เหรียญรางวัลจากมวยสากลเยาวชนชิงแชมป์โลก ค.ศ.2018 ของ “ไอบ้า” ที่กรุงบูดาเปสต์ ฮังการี ค.ศ.2018/พ.ศ.2561 อีกด้วย โดยเป็นผลงาน 2 เหรียญทองของ ฐิติสรรณ์ ปั้นโหมด รุ่น 49 กิโลกรัม, อธิชัย เพิ่มทรัพย์ รุ่น 60 กิโลกรัม บวกกับ 1 เหรียญเงินจาก นีลดา มีคุณ รุ่น 48 กิโลกรัม และอีก 4 เหรียญทองแดง นอกจากนี้ ในด้านการบริหารงานระหว่างประเทศนั้น นายพิชัย ชุณหวชิร ได้บุกเบิกขึ้นเป็นรองประธานสมาพันธ์มวยสากลแห่งเอเชีย (เอเอสบีซี) และเป็นผู้นำของวงการมวยสากลแห่งภูมิภาคอาเซียน ก่อนจะได้รับการเลือกตั้งให้เป็นกรรมการบริหารของสหพันธ์มวยสากลนานาชาติ (ไอบ้า) อย่างเป็นทางการ ทำหน้าที่เป็นปากเสียงให้กับวงการมวยสากลไทย และนานาชาติอย่างเป็นกิจลักษณะ โดยมี พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา เลขาธิการสมาคมกีฬามวยสากลฯ เป็นกรรมการบริหารและรองประธานสมาพันธ์มวยสากลแห่งเอเชีย (เอเอสบีซี) ล่าสุด
พ.ศ.2563 เป็นปีแห่งการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ฤดูร้อน ครั้งที่ 32 “โตเกียว 2020” อย่างเป็นทางการ แต่การแข่งขันต้องเลื่อนออกไปอีกปีหนึ่ง ด้วยอิทธิพลของโรคไวรัสโคโรน่า “โควิด-19” แม้ว่าการแข่งขันรอบคัดเลือกโซนเอเชียโอชีเนีย ค.ศ.2018 จะสิ้นสุดลงไปอย่างหวุดหวิด โดยมี 4 นักมวยไทยได้สิทธิเข้ารอบสุดท้าย “โตเกียว 2020” แล้ว ได้แก่ ฐิติสรรณ์ ปั้นโหมด, ฉัตรชัยเดชา บุตรดี, สุดาพร สีสอนดี และ ใบสน มณีก้อน เหลือการแข่งขันรอบคัดเลือกระดับโลก อีกรายการหนึ่ง.